您现在的位置是:DailyThai > ฮอตสปอต
【บอลออนไลน์ พนัน】หมดหนทาง!! เอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่ม น่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิม | เดลินิวส์
DailyThai2025-02-08 07:52:39【ฮอตสปอต】9人已围观
简介น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำ บอลออนไลน์ พนัน
น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไตรมาส 4 ปี 67 ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจรายย่อย และรายกลาง พึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจรายย่อยหันไปพึ่งพาแหล่งเงินจากนายทุนเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จาก 1.3% เป็น 7.4%
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2025/02/S__47472644-1280x856.jpg)
ส่วน ธุรกิจขนาดกลาง มีการกู้ยืมเงินทุนจากเพื่อน ญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น จาก 16.2% เป็น 18.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมพึ่งพาแหล่งกู้เงินในระบบสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เพิ่มมากขึ้น จาก 56.1% เป็น 69.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์“เอสเอ็มอี มีภาระหนี้สินมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 65% จาก 65.3% เมื่อพิจารณาตามขนาดธุรกิจ พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจรายย่อย มีสัดส่วนภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 97.1% และ 61.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจขนาดย่อมมีภาระหนี้สินลดลงมาอยู่ที่ 71.5%”
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า เอสเอ็มอี นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการลดลงจาก 91.9% เป็น 82% เนื่องจากเอสเอ็มอี เริ่มมีการนำเงินไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มมากขึ้นจาก 3% เป็น 9.7% และนำเงินไปลงทุนในกิจการเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 8.3% เพื่อขยายกิจการและซ่อมแซมสถานประกอบการ
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์จากผลสำรวจระบุว่า SME เผชิญปัญหาการชำระหนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น และเผชิญปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขันของคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้ จึงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ อีกทั้งการเข้าถึงวงเงินสินเชื่อจากแหล่งเงินต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ รวมถึงระยะเวลาสัญญาสินเชื่อที่สั้นเกินไป เกณฑ์การเข้าถึงสินเชื่อที่เข้มงวดมากตลอดช่วงหลังการฟื้นตัวจากโควิด ขั้นตอนการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก และการขาดความรู้หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จึงกลายเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์พบว่า SME ที่ไม่มีภาระหนี้สิน ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เริ่มมีความต้องการกู้ยืมเงินในอนาคตเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 17.6 เป็นร้อยละ 24.6 และจากร้อยละ 22.2 เป็นร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการ และ SME มองว่าปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำที่ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อลดลง คู่แข่งทางธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านการเงินของธุรกิจ เมื่อต้องการแหล่งเงินทุนหรือยื่นกู้สินเชื่อยังเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด รวมถึงธุรกิจที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสามารถในการชำระเงินคืนอีกด้วย
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์แม้ว่าสถานการณ์ภาวะหนี้สินของ SME ในไตรมาสที่ 4 เริ่มมีทิศทางทรงตัว SME ต้องการนำเงินกู้ที่ได้รับไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อต่ำ ราคาสินค้า บริการที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้า บริการได้นั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการเพิ่มการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อ เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์ในการยื่นขอสินเชื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกสาขาธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการไปพึ่งพาแหล่งกู้ยืมเงินที่ไม่เหมาะสมหรือผิดประเภทเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์很赞哦!(8543)
相关文章
- สังคมโลก : ปิดก๊อก | เดลินิวส์
- พร้อมแล้ว! POP-UP SPACE สุดพิเศษเพื่อแฟนๆ ชาวไทย ของขวัญส่งตรงจาก ‘พัคโบกอม’ | เดลินิวส์
- “ฉันรักเธอมากเลย” Katy Perry เผยความรู้สึกที่ได้ไปชมคอนเสิร์ตของ Taylor Swift
- 'ต๊อด-ปิติ'คว้า2รองแชมป์ แบดมินตันมาสเตอร์เกมส์ | เดลินิวส์
- "บาร์ซา" โหดไม่นับญาติถลุง "ค้างคาว" ไม่เลี้ยง 7 ตุง | เดลินิวส์
- "จอย บียอนด์"คอนเฟิร์มแซ่บ ซ่า เซ็กซี่คือภาพลักษณ์ ตัวจริงน่ารักแถมเลิฟแฟนคลับสุดๆ | เดลินิวส์
- Gracie Abrams เผยถึงประสบการณ์ออกทัวร์ร่วมกับ Taylor Swift
- “คุณแสตมป์ควรได้สู้คดีอย่างยุติธรรม” เติร์ด Tilly Birds แสดงความคิดเห็น...
- Flow เหมียวมีกัน วันน้ำท่วมโลก | เดลินิวส์
- "จอย บียอนด์"คอนเฟิร์มแซ่บ ซ่า เซ็กซี่คือภาพลักษณ์ ตัวจริงน่ารักแถมเลิฟแฟนคลับสุดๆ | เดลินิวส์
热门文章
站长推荐
‘จีน’ ประกาศผู้นำความยั่งยืนโลก 8 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัด เทเงินใส่นวัตกรรมทำจริงจัง | เดลินิวส์
ฮอตระดับโลก! ‘แจ็คสัน หวัง‘ หล่อเท่สะเทือนปารีสแฟชั่นวีค ร่วมชมโชว์ Louis Vuitton | เดลินิวส์
"เบสท์ คำสิงห์"ปล่อยเพลงรักชื่อเก๋"คนโปรดของฉันเป็นเธอเสมอ"ทำแฟนๆปรบมือรัวๆ | เดลินิวส์
พร้อมแล้ว! POP-UP SPACE สุดพิเศษเพื่อแฟนๆ ชาวไทย ของขวัญส่งตรงจาก ‘พัคโบกอม’ | เดลินิวส์
SeoulStation : 'หยางอวี่เถิง' เปรียบตัวเองเป็นกีต้าร์ ขอบคุณแฟนไทยรอเจอมายาวนาน | เดลินิวส์
“Lagom ลากอม” พอดี พองาม พอเพียง จากปรัชญา สู่วิธีคิด และวิถีชีวิตของชาวสวีเดน | เดลินิวส์
'จ๊ะ นงผณี'เสิร์ฟซีนแซ่บ แดนซ์เบาๆริมหาด ฟาดบิกิเสือสาวพร้อมขย้ำหัวใจ | เดลินิวส์
ตีโจทย์ไทยรับมือ‘ทรัมป์2.0’ | เดลินิวส์